เรียนต่อต่างประเทศ

ค้นหาคอร์สเรียนภาษาอังกฤษทั่วประเทศไทย

เรื่อง: [Tips & Tricks] เผยเทคนิคเลี้ยงลูก 2 ภาษา "พ่อแม่ธรรมดาก็สอนได้" โดยคุณพ่อฉี
 
อ่านแล้ว 411525

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Administrator
  • ดูรายละเอียด
คะแนนน้ำใจ: 3
25 ธ.ค. 58, 14:02:23น.


1. รบกวนแนะนำตัวคร่าวๆให้รู้จักกันทีครับ


ผมชื่อ นายอัศม์เดช แหล่งิ ชื่อเล่น "ฉี"
ผมเป็นเผ่าอาข่า(อีก้อ)เป็นเด็กกำพร้าแม่เสียตั้งแต่ตอนผมอายุ 6 ขวบตั้งแต่เล็กจนโตไม่เคยเข้าโรงเรียนภาคปกติ บ้านอยู่บนเขาเรียนกับครูอาสา(กศน)จนได้ใบประกาศนียบัตรเทียบเท่า ป.4 หลังจากนั้นไม่ได้เรียนต่อลงมาหางานทำอยู่ในเมือง(เชียงใหม่)ทำงานตามร้านอาหารล้างถ้วยล้างชาม เข้ามาทำงานใน กทม.เป็นผู้ช่วยช่างประปา และเคยออกทะเลอยู่เรือลากหอยลาย หลังผ่านไปหลายปีได้ใช้ใบ ป.4 ไปสมัครเรียน กศน. อีกครั้งตอนอายุ 17 ปีจนจบ ม.6 ภาษาอังกฤษเป็นวิชาที่เกลียดที่สุด เรียนทีไรเครียด หลายๆ ครั้งเครียดจนคลื่นไส้อาเจียน...พื้นฐานภาษาเป็นไงทุกท่านน่าจะทราบดี...


2.อะไรคือแรงบันดาลใจให้ตัดสินใจเลี้ยงลูกแบบ 2 ภาษาครับ?


ผมใช้ประสบการณ์ของชีวิตตัวเองที่ผ่านมาเป็นบทเรียนมาสอนลูก ผมคิดว่าผมไม่ใช่คนโง่ แต่ผมเป็นคนที่ขาดโอกาส ผมจึงเอาสิ่งที่ผมขาดในวัยเด็กมาเติมเต็มให้กับลูกตามกำลังปัญญาที่ผมทำได้..ผมก็หาข้อมูลเกี่ยวกับการเลี้ยงลูก

ก่อนจะมีลูกผมได้อ่านหนังสือ "รอให้ถึงอนุบาลก็สายเสียแล้ว" และผมก็มีความเชื่อเดิมอยู่แล้วว่าอัฉริยะสร้างได้ ( ไม่ได้บอกว่าพูดอังกฤษได้คืออัฉริยะ ) ผมไม่เชื่อว่ามีอัฉริยะคนไหนเก่งได้โดยไม่ได้เรียนรู้ ศักยภาพของเด็กก็เหมือนแผ่น CD เปล่าอยู่ที่ว่าใครมีความสามารถหาข้อมูลอะไรใส่ลงไปมากน้อยแค่ไหน...ที่สำคัญคือให้ถูกช่วงเวลาถูกวิธี


3. จำเป็นมั้ยครับที่พ่อแม่ต้องเก่งภาษาอังกฤษก่อน ถึงจะเลี้ยงลูกแบบ 2 ภาษาได้ครับ?


ผมคิดว่าไม่จำเป็นครับ ถ้ารอให้เก่งคงไม่ได้สอน. เพราะแม้แต่เจ้าของภาษาเองก็รู้ภาษาตัวเองไม่หมด
ผมเชื่อว่าพ่อแม่ไม่เก่งยังไงก็เก่งกว่าลูกที่เกิดมารู้วิธีที่ค้นค้าหาข้อมูลได้มากกว่าลูกแน่นอนครับ

ส่วนตัวผมคิดว่าที่ผ่านมาภาษาอังกฤษเป็นสิ่งที่ผมไม่ชอบและใจเราปฏิเสธ และสาเหตุใหญ่ของการไม่ชอบเพราะผมไม่เข้าใจและไม่พยามทำความเข้าใจ ไม่เข้าใจ+ไม่ชอบ+ปฏิเสธ+ไม่รู้เรื่อง

ผมก็เลยลองใหม่...หนังสือเล่มแรกที่ผมซื้อมาอ่านคือ รู้ทันสันดาน tense ผู้เขียน เทียรธรรมดา
จริงๆ หนังสือเล่มไหนก็เหมือนกันหมดครับ ยิ่งทุกวันนี้แทบไม่ต้องซื้อหนังสืออยากรู้อะไร หาใน google ได้หมด
พอทนอ่านเริ่มเข้าใจ พอเข้าใจเริ่มชอบและค่อยๆ เพิ่ม

หลายๆ คนมักจะบอกว่าเรียนภาษาอังกฤษไม่ต้องสนใจ tense หรือ grammar
ผมคิดว่าคนที่เรียนในฐานะภาษาที่ 2 และโดยเฉพาะศึกษาด้วยตัวเองผมว่าจำเป็นมาก...การไม่เข้าใจโครงสร้างพื้นฐานทำให้เราพูดไม่ได้พูดไม่ถูก แต่ถ้าเรามีความถี่อยู่กับฝรั่งทุกวันฟังพูดทุกวันก็ไม่จำเป็น เรียนรู้จากสิ่งที่พูดสิ่งที่ได้ยิน

แต่ที่เราสอนลูกเราสอนเหมือนภาษาแรกคือ ชี้ที่สิ่งของแล้วพูด แสดงท่าทางให้เห็น ให้ลูกเลียนแบบ ขัดเกลาการเลียนแบบ และให้ความถี่บ่อยๆ จนเขาจำได้

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=Mi1IU_Su2IE" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=Mi1IU_Su2IE</a>

คลิปน้องจันทร์เจ้าลูกสาวพ่อฉี วัย 2 ขวบ พูดภาษาอังกฤษ


4. มีเทคนิคหรือมีอะไรแนะนำพ่อแม่ที่ยังไม่เก่งภาษาอังกฤษและอยากเริ่มเลี้ยงลูก 2 ภาษาบ้างครับ?


...พ่อแม่ไม่เก่งก็ทำให้เก่งได้ไม่ยาก... แค่เปลี่ยนจาก passive learning เป็น Active learning

การค้นคว้าหรือการหาเทคนิควิธีไม่ใช่เรื่องยากในยุคปัจจุบัน...มี smartphone อยู่ในมือทุกคน นั่นเท่ากับโลกทั้งใบอยู่ในมือแล้วอยากได้อะไร download ได้หมดและฟรีด้วยเพียงแต่เรารู้วิธีใช้หรือเลือกใช้สิ่งที่เป็นประโยชน์หรือไม่

ผมเริ่มจาก...
การสอนก็เริ่มจากศัพท์เป็นคำๆ แล้วค่อยๆ เพิ่มเป็นวลี เป็นประโยค. การสอนของผมก็ท่องไปสอนไป ( ทั้งเรียนและสอนในเวลาเดียวกัน ) เราก็เรียนไปพร้อมกับลูก download การ์ตูนภาษาอังกฤษให้ลูกดู (ห้ามเอาที่มีคำแปลเป็นไทย เช่น A = ant = มด) ทำการบ้านหาศัพท์หาข้อมูลก่อนมาคุยกับลูก ผนังบ้านหรือผนังในห้องน้ำเปลี่ยนเป็นกระดานดำ เขียนศัพท์ เขียนประโยคที่ต้องใช้พูดคุยในขณะอาบน้ำให้ลูก คิดไม่ออกก็เงยหน้ามองแล้วค่อยคุยกับลูกพอบ่อยเข้าเราก็เริ่มจำได้

การออกเสียงภาษาอังกฤษของผมก็เหมือนคนไทยหลายๆ คนที่ใช้ความเชื่อ เชื่อในสิ่งที่ตาเห็นว่าสะกดอย่างไรก็อ่านอย่างนั้น

หลังจากนั้นผมมารู้ว่าที่เราเชื่อในสิ่งที่ตาเห็นสิ่งที่คนไทยหลายๆ คนออกเสียง เสียงที่เราได้ยินและคุ้นเคยกว่า 90 % ออกเสียงไม่ถูกต้อง. และผมมารู้จัก phonetics symbols สัญลักณ์กำกับการออกเสียงที่อยู่ใต้ศัพท์ ซึ่งก่อนหน้านี้ผมไม่เคยได้ยินมาก่อนและไม่เคยสังเกต dictionary ว่ามันมีด้วย. ผมจึงมาหัดอ่าน phonetics และใช้หูฟังไม่เชื่อตัวอักษรที่เขียน ทำให้การออกเสียงได้ดีขึ้น

สรุปคือ...การสอน "ห้ามแปล"

ชี้ที่สิ่งของแล้วพูด เช่น ชี้ที่หนังสือแล้วพูด book หรือ a book
หยิบของขึ้นก็พูดว่า pick it up หยิบของขึ้นมาพร้อมกับพูดและให้เขาได้ยินเสียงให้เห็นท่าทาง
วางของลงก็พูดว่า put it down

เริ่มจากศัพท์ เป็นวลี เป็นประโยค ค่อยๆ เพิ่ม

และสิ่งที่สำคัญคือพยายามออกเสียงให้เคลียร์...ถ้าไม่มั่นใจให้ฟัง talking dict หรือถ้าจะให้ดีก็หัดอ่าน phonetics พวกนี้ download ได้ฟรี


5. อะไรคือปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการเลี้ยงลูกแบบ 2 ภาษาครับ?


ผมมองว่าพ่อแม่สำคัญมากครับเพราะว่าพ่อแม่สอนได้ตั้งแต่ลูกยังเล็กและในวัยเด็กคนที่มีความถี่ในการสอนคนที่อยู่ใกล้ชิดลูกก็คือพ่อแม่การสอนตั้งแต่เล็กทำให้เด็กคุ้นชินเหมือนเป็นภาษาแรกเขาจะพูดเป็นธรรมชาติโดยไม่รู้สึกเก้อเขิน..ก็คือการฝึกเดินก้าวแรกต้องพ่อแม่เริ่ม แล้วเขาจะไปฝึกวิ่ง จะกระโดดสูงหรือจะตีลังกามันก็จะเป็นเรื่องง่ายขึ้น

เราอาจมองข้ามตัวอย่างดีๆ ที่อยู่ใกล้เรา
เด็กต่างจังหวัดพูด 2 ภาษาเป็นธรรมชาติโดยไม่เก้อเขิน
1.ภาษาท้องถิ่น
2.ภาษาไทย

เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะมีความถี่ในการพูด 2 ภาษาตั้งแต่เด็ก จนไม่รู้สึกว่ามันเป็นสิ่งแปลกปลอม


(คุณฉี คือคนที่ใส่เสื้อสีฟ้าครับ)



6. หลายครั้ง พ่อแม่ยังไม่เก่งภาษา มาเลี้ยงแบบหนึ่งคนหนึ่งภาษา (One Parent One Languae – OPOL) แล้วรู้สึกอึดอัดกับการพูดหรือแสดงความรักผ่านภาษาที่ไม่คุ้นเคย อยากพูดไทยกับลูก มีความเห็นอย่างไร และมีอะไรแนะนำบ้างครับ?


วิธีที่ผมปฏิบัติมาคือพูดเท่าที่ได้ครับแล้วค่อยๆ เพิ่ม ศึกษาค้นคว้าหรือสอบถามผู้รู้ อะไรที่เราพูดเป็นอังกฤษไม่ได้ก็พูดไทยได้ครับ..ทำให้สนุกอย่าไปเครียดหรือกดดันตัวเอง

แต่เวลาเราพูดอังกฤษแล้วลูกตอบเป็นไทยต้องไม่ปล่อยผ่านไปครับ...พยายามให้เขาตอบโต้เป็นภาษาอังกฤษ ถ้าปล่อยผ่านไปเรื่อยๆ เด็กจะไม่ยอมพูด..โหมดภาษาอังกฤษจะไม่เกิด ถ้าโหมดภาษาอังกฤษเกิดขึ้นเมื่อไหร่ปริมาณก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ครับ
 

7. คิดว่าอะไรเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้การเลี้ยงน้องจันทร์เจ้าแบบ 2 ภาษาได้สำเร็จครับ?


การลงมือทำครับ...

ผมคิดว่าอะไรที่เกิดจากความอยากความรักเราจะทำได้ดี

ผมมีความอยาก และลงมือปฏิบัติและทำอย่างต่อเนื่อง แค่ใช้เวลาที่อยู่กับลูกจากพูดภาษาไทยก็เปลี่ยนเป็นพูดอังกฤษเท่าที่จะพูดได้ หาหนังสืออ่าน หาวิธีเพื่อเพิ่มความแม่นยำและมีประสิทธิภาพ...ซื้อหนังสือคุณ พงษ์ระพี เตชพหพงษ์(ผู้ใหญ่บิ๊ก) เจ้าของแนวคิดเด็ก 2 ภาษาพ่อแม่ธรรมก็สร้างได้มาอ่านหลักการและแนวคิดครับ


8. จากประสบการณ์ส่วนตัวที่ได้พบเจอ คิดว่าอะไรคือปัญหาที่ทำให้พ่อแม่ส่วนใหญ่เลี้ยงลูก 2 ภาษาได้ไม่ดีเท่าที่ควรครับ?


ผมคิดว่าเพราะชอบดูถูกศักยภาพของตัวเอง...สิ่งที่พ่อแม่มักจะพูดคือ "ไม่เก่งภาษา" อาย กลัวสอนลูกผิด
มีคนถามผมว่าไม่กลัวว่าจะสอนลูกผิดเหรอ?...
ผมตอบไปอย่างมันใจเลยว่า "ผมสอนผิดแน่นอน" ผมรู้ดีว่ามันไม่สมบูรณ์แบบ แต่ผมไม่กลัวเชื่อว่ารายละเอียด ความถูกต้องความสมบูรณ์ ไปแก้ไขทีหลังได้ 

..แต่สิ่งที่ผมกลัวมากกว่าคือ ผมรอไม่ได้..
ผมต้องทำตั้งแต่เกิดตั้งแต่เล็กเพื่อให้เขาเกิดความเคยชินกับการพูดภาษาอังกฤษเป็นเรื่องปกติ. แต่ถ้าผมรอให้เขาโตแล้วให้ข้อมูลนั่นจะกลายเป็นสิ่งแปลกปลอมที่เขารับได้ยาก เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ผมกลัวมากกว่าที่กลัวว่าจะสอนผิด....การพูดภาษาที่ 2 มันต้องเริ่มจากผิดแน่ๆ มันเป็นเรื่องปกติ.  ภาษาตัวเองหลายๆครั้งยังพูดผิดเลย

กล้าพูดแบบผิดๆ ถูกๆ มันก็ยังดีกว่าพูดไม่ได้เลย...แค่สร้างความกล้าพูดให้เกิดขึ้นได้ ผมมองว่านั่นคือสำเร็จแล้ว

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=7Z1g-axxEfo" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=7Z1g-axxEfo</a>

คลิปน้องจันทร์เจ้า ช่วงอายุ 2.7 ปี พูดภาษาอังกฤษ


9. หลายคนมองว่าการเลี้ยงลูก 2 ภาษา ต้องใช้เงินเยอะ คิดว่าอย่างไรอบ้างครับ และการหาซื้อสื่อสอนลูก จำเป็นมั้ยครับ ที่ต้องหาซื้อสื่อต่างประเทศ ที่อาจจะมีราคาสูงพอสมควร?


ใช้เงินเยอะก็ใช่ว่าจะได้ผลครับ...ก็มีตัวอย่างให้เห็นมากมาย เช่น โรงเรียน 2 ภาษาค่าเทอมขั้นต่ำก็สามหมื่นกว่าบาทผมไม่เห็นว่าเด็กจะพูดได้เลย ส่วนใหญ่ที่เป็นเช่นนั้นเพราะอยู่ที่บ้านไม่เคยมีใครพูดอังกฤษความถี่มันไม่พอ ที่บ้านไม่เคยฝึกเดินก้าวแรก มาฝึกมาเริ่มที่โรงเรียนเป็นไม่แก่ที่ดัดยากขึ้น ไม่เหมือนคนที่ฝึกเดินก้าวแรกมาจากบ้านพอเข้าโรงเรียนหรือไปเรียนพิเศษก็ต่อยอดได้เลย...เพราะฉนั้นการสอนที่มีประสิทธิภาพและประหยัดคือการสอนโดยไม่สอนใช้เวลาอยู่ที่บ้านพูดคุยโดยพ่อแม่ครับ

ส่วนสื่อผมว่าทุกวันนี้สื่อดีๆ และฟรีหาได้ง่ายส่วนใหญ่ผม download เอาครับไม่เคยซื้อสื่อแพงๆ
ผมมองว่าไม่ได้อยู่ที่สื่อแพงครับ...แต่อยู่ที่ทำอย่างไรให้เด็กรู้ข้อมูลจำข้อมูลได้ การทำให้เด็กจำสิ่งต่างๆ ได้ผมว่าไม่ได้อยู่ที่ราคาครับ...แต่มันอยู่ที่วิธีการ
   

10. หากจะให้สรุปว่า อะไรคือปัจจัยที่สำเร็จในการเลี้ยงลูก 2 ภาษา คิดว่ามีอะไรบ้างครับ?


...ปัจจัยที่จะสำเร็จได้คือลงมือทำครับ...

ความฝันที่ยังไม่ได้ลงมือทำ มันก็ไม่ต่างอะไรกับคนที่ไมีความฝันอะไรเลย...เหตุผลที่ไม่สำเร็จคือไม่ทำหรือทำไม่ต่อเนื่องไม่จริงจัง  จริงๆ แล้วหลายๆ เรื่องไม่ใช่เป็นสิ่งที่เราทำไม่ได้...แต่เป็นสิ่งที่เราไม่ได้ทำมากกว่า
เพราะฉนั้นต้องรีบลงมือทำยิ่งทำเร็วยิ่งง่าย เลิกดูถูกตัวเอง เลิกรอความสมบูรณ์แบบ เลิกอาย เลิกแคร์สายตาคนอื่นที่มอง และเปลี่ยนวิธีคิดแบบเดิม เช่น ว่าเด็กยังเล็กเกินไปอย่าสอนเยอะเด็กจะรับไม่ได้เด็กรับได้ไม่อั้นให้กลัวว่าให้ไม่พอ  วิธีคิดแบบเดิมปล่อยให้เด็กโตแบบอิสระแล้วป้อนข้อมูลตอนโตนั่นแหละคือยัดเยียดบังคับลูก ให้นึกถึงว่านี่คือลูกเราอยากให้ลูกเป็นอย่างไรเราต้องสร้างเองครับ

สรุปคือว่า...ลงมือทำและทำให้ถูกวิธี
1.ห้ามสอนแบบแปล เอ แอ้น มด
2.ชี้ให้เห็นภาพหรือแสดงท่าทางให้เห็นในสิ่งที่เราพูดถึง ให้เด็กเลียนแบบและจำได้...ห้ามพูดลอยๆ นอกจากในสิ่งที่เด็กรู้แล้วมีประสบการณ์แล้ว
3.เวลาพูดอังกฤษกับลูกพยายามให้ตอบโต้เป็นภาษาอังกฤษ..อย่าปล่อยผ่านไปเรื่อยๆ ไม่งั้นจะไม่ยอมพูดสักที

ห้ามเปรียบเทียบกับลูกคนอื่น...แล้วทำให้เรากดดัน
สมองคนเราเรียนรู้ได้เท่ากัน...แต่ในเวลาที่ไม่เท่ากัน...การเรียนรู้ช้าหรือเร็วจึงต่างกัน ถ้ายังไม่ได้ก็ซ้ำ ทบทวน...เริ่มให้เขากล้าพูดได้ก็สำเร็จแล้ว ปริมาณเดี๋ยวก็มาเองครับ

สามารถติดตามพ่อฉี และน้องจันทร์เจ้าได้ที่ : https://www.facebook.com/Janjaoandporchee
แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02 ก.พ. 59, 16:22:58น. โดย admin

My Name: deksamrong ออฟไลน์
  • ดูรายละเอียด
  • iphone x
คะแนนน้ำใจ: 0