เรียนต่อต่างประเทศ

ค้นหาคอร์สเรียนภาษาอังกฤษทั่วประเทศไทย

เรื่อง: [Exclusive Interview] ฝึกภาษาอังกฤษเองไปๆมาๆ จนได้เป็นนักข่าวภาษาอังกฤษ!
 
อ่านแล้ว 399602

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Administrator
  • ดูรายละเอียด
คะแนนน้ำใจ: 3
30 ม.ค. 59, 15:53:28น.

1. รบกวนแนะนำตัวคร่าวๆด้วยครับ

ผมชื่อ Ben นะครับ หรือเต็มๆ ก็ นับพล สุวรรณสมบัติ ตอนนี้ ก็ทำงาน รายงานข่าวแบบเขียนเป็นภาษาอังกฤษให้กับ รัฐบาลครับ เป็นครูสอนพูดภาษาอังกฤษด้วย แล้วก็เป็นผู้ประกาศข่าวทาง NBT World ภาคภาษาอังกฤษ ครับ ก่อนหน้านี้ เคยเป็นนักข่าวภาคสนามของสำนักข่าวญี่ปุ่น NHK World ภาคภาษาอังกฤษเหมือนกันครับ

2. ใช้เวลาไปนานเท่าไร ในการฝึกภาษาอังกฤษอย่างจริงจัง จนภาษาอังกฤษคล่องขึ้นจนสามารถรายงานข่าวภาษาอังกฤษได้ครับ

ใช้เวลาฝึกอยู่นานทีเดียวเลยครับ แต่ผมฝึกแบบ สนุกสนานไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นการพูด หรือ การออกเสียง เริ่มหัดพูด ตั้งแต่ ม 4 ได้งานข่าวภาษาอังกฤษครั้งแรก ตอนจบมหาลัยเลย บวกลบคูณหาร ก็ราวๆ 7-8 ปี ครับ แต่เป็นการฝึกที่ไม่ได้มีใครมาสอน เลยอาจจะนานหน่อย ต้องอาศัย ดูทีวี ฝึกออกเสียง ตาม ฝึกพูดสำเนียงให้ได้ใกล้เคียงที่สุด แล้ว พยายาม หัดพูด บรรยายให้เป็น ทักษะการพูดบรรยายนี่สำคัญมากเลยครับ ผมอ่านหนังสือที่เป็นภาษาอังกฤษเยอะมากกกกกกกกก เปิดคำศัพท์ทุกตัว จากนั้น เอามาเขียนในไดอารี่ หรือ ลอกใส่สมุดออกมาครับ ทำ บ่อยมาก

3. ทำยังไงถึงจะพูดให้ได้สำเนียง โดยที่ไม่ได้ไปอยู่ที่ต่างประเทศบ้างครับ

ก็ดูทีวีแล้วพูดตามครับ ผมจะโหลด script หนังฝรั่งมาดู ตอนนั้นผมนึกไอเดียฝึก อ่านจาก script หนัง ตอนนั้น ประมาณปี 2543 (ปี 2002) กระวนกระวาย อยากพูดได้เหมือนตัวละครในหนัง ผมเลยลองหาจาก Yahoo พิมพ์คำว่า movie script เท่านั้นแหละครับ เจอเป็นร้อย จากนั้นเลือกเรื่องที่ชอบแล้วปริ้น ออกมาเลยครับ เอามาอ่านตาม ดูหนังซ้ำๆ ผมอ่านบทละครออกเสียงมันทุกคืน จนโดนที่บ้านด่า เลยครับ เพราะ เขารำคาญ HAHAHA จากนั้น ก็ซื้อโปรแกรมออกเสียของ พวก Cambridge ไม่ก็ Longman มาลงคอมครับ แล้วฟัง การออกเสียง  เวลาพูดเป็นคำ ๆ ผมพูดออกสำเนียงฝรั่งได้ครับ แต่พอพูดยาวๆ สำเนียงไทยมาเต็ม ถ้าจะให้สำเนียงมันอยู่กับตัว ต้องมีคนพูดด้วยครับ ผมก็พูดกับเพื่อน นี่แหละครับ ตอนนั้นเรียน ABAC อาจจะได้เปรียบเพราะ มีเพื่อนต่างชาติพูดได้ง่าย แต่สมัยนี้ถึงไม่ได้เรียน มหาลัยอินเตอร์ ต่างชาติก็มีเต็มไปหมดในประเทศแล้วครับ แต่ถึงเรียนมหาลัยอินเตอร์ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะพูดอังกฤษเก่ง นะครับ มันต้อง ปรับพฤติกรรมในการพูดของตัวเอง การเข้าหาคนอื่น

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=s5jx2btolHY" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=s5jx2btolHY</a>


4. เคยมีประสบการณ์ขำๆในการใช้ภาษาอังกฤษระหว่างทำหน้าที่นักข่าวบ้างมั้ยครับ

เยอะเลยครับ HAHAHA ตอนรายงานข่าวใหม่ๆ การใช้ภาษาอังกฤษ มีหลุดบ่อยมาก อย่างคำว่าสินค้าหลายอย่าง จะสะกดว่า goods ตอนอ่านใหม่ๆ อ่านเป็น ห่าน เลยครับ goose ออกเสียงที่ถูกมันต้อง ออกเสียง good สั้นๆ แล้วเติม s ที่หลัง คนฟังข่าวคง งงว่า ทำไม ข่าวมีแต่ขายห่าน ไม่ใช้สินค้า
 
5. สำหรับคนที่เริ่มต้นจาก 0 ไม่มีพื้นฐานภาษาอังกฤษเลย คิดว่าควรเริ่มต้นจากตรงไหนครับ ถึงจะเก่งภาษาอังกฤษได้

คนที่เริ่มจาก ศูนย์ ต้องมองอย่างนี้นะครับ เริ่มจากทัศนคติก่อน ว่า จะเก่งพูดภาษาอังกฤษ ต้องพึ่งตัวเองเสีย 95% ไม่มีที่ไหนในโลก สามารถสอนให้พูดแล้วเป็นภายใน 1 เดือน หรือ 3 เดือน ถ้า งูๆ ปลาๆ 3 เดือนพอได้ครับ แต่จะให้พูดแบบ คล่อง ถึงขนาดสามารถพูด ได้เรื่อยๆ  ก็อย่างน้อย 1 .2 ปี อยากพูดได้แบบฝรั่งก็ 5 ปีขึ้นเลยครับ โดยต้อง ‘พูด’ มากกว่า อ่านและเขียน ‘ทุกวัน’

ถ้าปรับทัศนคติได้ตามนี้นะครับ ที่เหลือไม่มีอะไรยากแล้วครับ เริ่มจาก อ่านก่อน อ่านจากสิ่งที่สนุก และง่ายต่อการเข้าใจ หนังสือนิทานเด็กๆ อ่านไปเลยครับ อ่านเสร็จ ลอกมันออกมา คัดมันออกมา ใส่สมุด ผมเองก็ทำแบบนี้ คัดเยอะมาก เหมือนลอกการบ้านเพื่อนครับ ง่ายๆ ลอกมันเข้าไป จากนั้น อ่านออกเสียง ตาม ทำไปเรื่อยๆครับ เดี๋ยวความรู้มันมาเอง แต่อย่าหยุดนะครับ พอเราได้คำศัพท์มากขึ้น ได้รูปประโยคมากขึ้น ความมั่นใจก็มา การเรียน หรือ ฝึกเองต่อยอด ก็จะง่ายมากขึ้น

6. หลายคนชอบบอกกับตัวเองว่า "ไม่มีเวลา" ฝึกจริงๆจังๆ และ "ไม่มีโอกาส" เจอฝรั่ง หรือ ไปเมืองนอก มีความเห็นยังไงบ้างครับ

หลายๆคนชอบรอ ให้โอกาสมาก่อน แล้วค่อยฝึก เช่น รอเจอฝรั่งก่อนนะ รอไปเรียนต่อก่อนนะ รอได้ที่ทำงานใหม่ก่อนนะ รอเพื่อน รอของฟรี รอพูดได้ก่อนนะแล้วจะกล้าคุยกับฝรั่ง หรือ มีข้ออ้างได้เยอะแยะมากมาย

ส่วนตัวผมมองว่าการผัดวันประกันพรุ่งที่จะหัดพูด ภาษาอังกฤษช้าไป 1 วัน เท่ากับ ความสามารถในการพูดอังกฤษได้ก็จะช้าไปอีก 1 ปีเต็มเลยนะครับ

คนเรียนเมืองนอก กลับมา พูดอังกฤษ ไม่เก่งมีเยอะแยะนะครับ คนอยู่เมืองไทยพูดอังกฤษเก่งกว่าเด็กนอกก็มีเยอะแยะ เพราะฉะนั้น จะอยู่ไทยหรืออยู่นอก ไม่ใช่ปัจจัยวัดความเก่งเลยครับ

ส่วนเรื่องเวลา ลองงดเล่นมือถือสักชั่วโมงสิครับ เดี๋ยวเวลาว่างมันจะโผล่ขึ้นมาเองครับ

7. มีเคล็ดลับอะไรในการสนุกกับการฝึก หรือ ทำให้ไม่เบื่อหรือท้อกับการฝึกภาษาอังกฤษทุกๆวันได้ครับ

อยากสนุก กับการเรียนต้องได้ใช้ครับ สมัยผมฝึกใหม่ๆ ต้องหาคนพูดด้วยครับ จะเป็นเพื่อน หรือ ครู ก็ได้ พอได้ใช้ แล้ว เห็นว่า คนฟังเราเข้าใจ เราก็เกิดแรงบันดาลใจที่จะฝึกต่อไป อีกหน่อยพอผู้ฝึกพูดคล่องขึ้น เดี๋ยวก็จะได้ชาวต่างชาติ มาเป็นเพื่อนเองหล่ะครับ เชื่อผม แต่ต้องอย่าหยุดพูด อย่าหยุดใช้เด็ดขาด

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=q3-EXeavRaI" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=q3-EXeavRaI</a>

คลิปคุณ BEN สัมภาษณ์นักข่าว WSJ ถึงเส้นทางเก่งภาษาอังกฤษ

8. พอมองย้อนกลับไป คิดว่าอะไรคือสิ่งสำคัญที่ทำให้เราเก่งภาษาอังกฤษจนได้เป็นนักข่าวภาษาอังกฤษในวันนี้ได้ครับ

แรงบันดาลใจเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกสำหรับผมเลย ผมอยากเป็นนักข่าวเหมือน CNN เลยทำให้ต้อง เทรนตัวเอง วางแผนการฝึกพูด หาข้อมูลวิธีฝึกจาก อินเตอร์เนต ฟังเรื่องราวของคนที่ทำสำเร็จมาก่อน ซึ่งก็มีจริงๆ เป็นชาวโปแลนด์ เขาหักดิบพูดภาษาอังกฤษกันเองกับเพื่อน ทำกันอยู่สองคน จนผ่านมา 10 กว่าปี ตอนนี้ภาษาอังกฤษกลายเป็นภาษาแม่ที่สองไปแล้วครับ เวลาสองคนนี้ไป อเมริกาหรืออังกฤษ คนก็คิดว่าเขาเป็นเจ้าของภาษา อย่างที่สองคือ วินัย และทัศนคติ แบบสบายๆ ไปเรื่อยๆ แต่สม่ำเสมอครับ

9. สุดท้ายนี้ อยากให้แชร์เคล็ดลับเก่งภาษาอังกฤษ (ซักที!) ให้กับทุกคนทีครับ

ท่องไว้เลยครับ ฟัง พูด อ่าน เขียน ให้ได้บ่อยที่สุดในแต่ละวัน
หาเรื่อง พูด หาเรื่องเขียน หาเรื่องอ่าน หาเรื่องฟัง แค่นี้จริงๆเลยครับ


สุดท้ายนี้ ทุกคนสามารถติดตามคุณ BEN ได้ที่ช่องทางนี้เลยครับ:
https://www.facebook.com/toihoienglish/
https://www.youtube.com/channel/UC3OQA1T_Ea1TqsauLUNctBg
แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20 มี.ค. 59, 16:09:56น. โดย admin